วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

มาตราส่วน

มาตราส่วน ( SCALE ) หมายถึง อัตราที่ใช้ย่อหรือขยายส่วนการเขียนแบบโดยทั่วไป ภาพที่เขียนแบบจะมีขนาดที่สัมพันธ์พอเหมาะกับขนาดกระดาษเขียนแบบเสมอ เมื่อมองภาพแล้วเห็นรายละเอียดได้ชัดเจนสมบูรณ์ ฉะนั้นการเลือกใช้มาตราส่วนที่เหมาะสมกับขนาดกระดาษเขียนแบบ ผู้เขียนแบบจึงต้องควรคำนึงถึงมาก
มาตราส่วน แบ่งออกเป็น 3 ชนิด
1.      มาตราส่วนย่อ  ( BRIEF SCALE ) เช่น 1 : 10 อ่านว่า  หนึ่งต่อสอบ  หมายถึง ของจริง 10 ส่วน เขียนลงในกระดาษเขียนแบบ 1 ส่วน
2.      มาตราส่วนขยาย ( EXTENDED SCALE ) เช่น 10 : 1 อ่านว่า  สิบต่อหนึ่ง  หมายถึง ของจริง 1 ส่วน เขียนลงในกระดาษเขียนแบบ 10 ส่วน
3.      มาตราส่วนเท่าของจริง ( FULL SCALE ) เช่น 1 : 1 อ่านว่า  หนึ่งต่อหนึ่ง  หมายถึง ของจริง ส่วน เขียนลงในกระดาษเขียนแบบ 1 ส่วน
สำหรับมุมต่าง ๆ ที่มีอยู่ในแบไม่ว่าจะเป็นมุมตรงไหนก็ตาม จะไม่มีผลต่อการใช้มาตราส่วน กล่าวคือมุมไม่ต้องทำการย่อหรือขยายแต่ประการใด เช่น มุม 60 ไม่ว่าจะใช้มาตราส่วนย่อหรือมาตราส่วนขยาย มุม 60 ก็ยังเป็นมุม 60 อย่างเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
สำหรับการเขียนค่าของตัวเลขบอกขนาด  ก็เช่นเดียวกันกับมุมต่าง ๆ ไม่ว่าจะใช้มาตราส่วนย่อหรือขยายก็ตามการกำหนดขนาดจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย เช่น ขนาดความยาวของวัตถุ 15 เซนติเมตร  มาตราส่วนไม่ว่าจะย่อหรือขยาย  การเขียนตัวเลขบอกขนาดก็เขียน 15 เซนติเมตรเท่าเดิม



อัตราส่วน

อัตราส่วน (Ratio)
1.             อัตราส่วน (Ratio)  คือ การเปรียบเทียบของสิ่งหนึ่งต่อของอีกสิ่งหนึ่งที่มีหน่วยอย่าง เดียวกัน เช่น  a : b อ่านว่า a ต่อ หรือ  a/b
ตัวอย่าง     กุ๊กกิ๊กสูง 150 ซม.  กุ๊กไก่สูง 170 ซม.  ดังนั้นความสูงของ กุ๊กกิ๊กต่อความสูงของกุ๊กไก่ คือ 150 ต่อ 170 หรือเขียนเป็น
150 : 170  =  15 :17
2.  อัตราส่วนที่เท่ากัน  คือ อัตราส่วนที่แสดงอัตราเดียวกัน นั่นเอง เช่น

3 : 5  =  6 : 10  =  12 : 20   เป็นต้น

เทคนิคการเขียนกระดานดำ

เทคนิคการเขียนกระดานดำ
เทคนิคการใช้กระดานดำมีหลายประการ เทคนิคที่สำคัญ ได้แก่
1. ก่อนใช้กระดานดำควรคำนึงถึงความสะอาด ซึ่งจะทำให้เขียนได้ชัดเจนและน่าอ่าน
2. ต้องเขียนให้หนังสือมีขนาดพอเหมาะ อ่านง่าย ชัดเจน เป็นระเบียบ ไม่ชิดกัน หรือเขียนตัวหวัดจนเกินไป
3. ควรเริ่มเขียนจากด้านซ้ายของกระดานดำไปทางขวา
4. ควรเน้นจุดสำคัญโดยการใช้ชอล์กสีหรือขีดเส้นใต้ และควรเขียนชื่อเรื่องไว้กลางกระดานดำ
5. เลือกสีของชอล์กให้เหมาะกับพื้นของกระดานดำ และการเน้นส่วนสำคัญ
6. เวลาเขียนควรกวาดสายตาให้ตรงตามบรรทัดไม่เขียนขึ้นๆ ลงๆ
7. เลือกเขียนเฉพาะหัวข้อและใจความสำคัญ ไม่ควรเขียนให้มากและแน่นจนเกินไป
8. เมื่อเขียนเสร็จจะต้องตรวจดูความถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของนักเรียน
9. ควรเขียนกระดานโดยเอียงตัวเข้าหา จะได้ไม่ต้องบังข้อความที่เขียนไว้แล้ว
10. เมื่อจะสอนเรื่องใหม่ ควรลบข้อความเนื้อหาเดิมให้หมดเสียก่อนเพื่อให้ข้อความที่เขียนจากเนื้อหาใหม่เป็นที่น่าสนใจ
11. ใช้ภาพการ์ตูนลายเส้นประกอบการสอนจะทำให้การอธิบายของครูน่าสนใจมาก
12. ควรแบ่งกระดานดำออกเป็นส่วนๆ ตามความยาว แล้วเขียนให้หมดเป็นส่วนๆ ไป ไม่ควรเขียนตรงนั้นทีตรงนี้ที เพราะจะทำให้นักเรียนสับสน
13. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการใช้กระดานดำด้วย เพระจะช่วยให้นักเรียนเกิดความภาคภูมิใจ
14. การเขียนควรจับชอล์กทำมุม 45 องศากับกระดานดำ ใช้ปลายนิ้วชี้กดปลายชอล์กไว้
15. ในกรณีที่ต้องเขียนรูปทรงเรขาคณิต ควรใช้เครื่องมือช่วย จะทำให้การเขียนประณีตเรียบร้อย ชัดเจน
16. ขณะอธิบายข้อความบนกระดานดำ ครูควรชิดไปทางด้านใดด้านหนึ่งของกระดานดำให้ใช้ไม้ชี้ ไม่ควรใช้มือชี้ และไม่หันหลังให้นักเรียนขณะอธิบายประกอบ
17. การเขียนข้อความที่อยู่ด้านล่างของกระดาน ให้ย่อตัวลงไปเขียน ไม่ใช่โค้งตัวไปเขียน
18. ขณะฝึกเขียนใหม่ๆ อาจใช้ชอล์กทำเส้นประให้เป็นแนวตรง เมื่อเขียนคล่องแล้วก็ไม่ต้องใช้เส้นช่วย
19. ถ้าสอนนักเรียนที่เริ่มหัดเขียน ครูต้องเขียนคัดตัวบรรจงเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี
20. ควรลบกระดานดำให้เรียบร้อยเมื่อหมดคาบเรียน และไม่ควรใช้มือลบกระดานดำ แต่ควรใช้แปลงลบกระดาน หรือผ้า
21. การใช้กระดานดำแต่ละครั้ง ควรจะได้เตรียมการล่วงหน้าว่าจะเขียนข้อความหรือรูปอะไรบ้าง
22. ห้ามใช้คำย่อที่ครูคิดขึ้นเองและเข้าใจได้ยาก
23. อย่าใช้การเขียนกระดานดำมากเกินไป หากมีเนื้อหาที่มากและซับซ้อนควรใช้เอกสารประกอบ
24. อย่าอายหรือแสดงความไม่พอใจหากครูเขียนผิดและนักเรียนบอกการเขียนที่ถูกต้องแก่ครูในทางตรงข้ามครูควรขอบใจนักเรียน